เพิ่งเปิดตัวไปได้ไม่นาน สำหรับ ks kurve lite2 ก็ได้รับเสียงตอบรับดีมากๆจากผู้ใช้งาน เพราะเป็นบุหรี่ไฟฟ้าที่ออกแบบมาสำหรับไลฟ์สไตล์คนยุคนี้อย่างแท้ทรู ทั้งดีไซน์ที่สวยงาม สีสันที่จัดจ้าน มีให้เลือกหลากหลายสี ซึ่งในเรื่องรูปลักษณ์ภายนอกเป็นส่วนสำคัญจริงๆที่จะทำให้คนตัดสินใจซื้อ ยิ่งดึงดูดเท่าไหร่ ก็ยิ่งอยากซื้อใช้มากเท่านั้น ต่อมาคือเรื่องราคา ตระกูล KS Kurve Lite เป็นรุ่นที่ราคาย่อมเยาว์ตามคอนเซปมาอยู่แล้ว ทำให้คนเอื้อมถึงได้ง่าย ได้สูบบุหรี่ไฟฟ้าได้ในราคาที่ถูก ก็จะส่งผลมาในเรื่องของคุณภาพ ต่างถกเถียงกันว่าถ้าราคาถูกคุณภาพจะลดลง แต่ไม่เลย KS Kurve Lite 2 รีวิว ยังคงคุณภาพไว้เหมือนเดิมจากรุ่นพี่ KS Kurve แต่ที่ต่างคือวัสดุจากตัวเครื่อง ซึ่ง ไม่ใช่ว่าไม่ดี เพียงแค่เปลี่ยนวัสดุเท่านั้น ให้ได้ราคาที่ถูกยิ่งขึ้น คุณมั่นใจได้เลยว่า ถ้าซื้อบุหรี่ไฟฟ้ารุ่นนี้ไปสูบ จะได้ความคุ้มค่าแบบสุดๆแบบที่ไม่เคยหาจากบุหรี่ไฟฟ้ารุ่นไหนได้
KS Kurve Lite 2 รีวิว รูปลักษณ์ที่ดึงดูดให้อยากใช้งาน
ส่วนสำคัญในการเลือกใช้บุหรี่ไฟฟ้าสักหนึ่งแท่ง นั่นก็คือรูปลักษณ์ดีไซน์ภายนอกนั่นเอง เพราะแน่นอนคนรุ่นใหม่ต้องเน้นความดูดี และการสูบบุหรี่ไฟฟ้า คนภายนอกจะมองเห็นอยู่แล้ว ก็ต้องดูดีในสายตาคนอื่นด้วย ในรุ่นนี้มีดีไซน์ที่สดใส สนุกสนาน ใครเห็นก็ต้องตกหลุมรักแน่นอน เพราะออกแบบมาไม่เหมือนกับรุ่นไหนๆ ดีไซน์เรียวเล็ก ลดขนาดลงให้เล็กขึ้น น้ำหนักเบาเพียง 17.8 กรัม ทำให้พกพาง่าย ด้านท้ายของพอตรุ่นนี้จะเป็นลักษณะลายทาง เพื่อกันลื่น และถือได้ง่ายเวลาที่นักสูบใช้งาน และยังคงดีไซน์ความเรียบ มินิมอลเอาไว้ หรือมองอีกลุคก็ดูเท่ไปอีกแบบ และยังมีไฟแจ้งเตือน LED ที่ตัวเครื่องด้วย แต่ที่สะดุดตาสุดๆของรุ่นนี้ก็คือ สีของตัวเครื่อง ที่มีสีสันสดใส และเป็นสีที่ไม่เคยมีมาก่อน ให้นักสูบได้เลือกทั้งหมด 5 สี ได้แก่ White , Aqua blue , Bamboo green , Flamingo red และ Mango orange สามารถเลือกตามสี ตามสไตล์ที่ชอบได้เลย
คุณสมบัติยอดเยี่ยมของ KS Kurve Lite 2
นอกจากโดดเด่นเรื่องดีไซน์ รูปลักษณ์ภายนอกแล้ว Kardinal Stick ไม่ทำให้คุณผิดหวังเรื่องคุณภาพ ฟังก์ชั่นการใช้งานอย่างแน่นอน เป็นรุ่นที่เป็นตระกูลลูกค้า Ks Kurve แต่พัฒนาให้ตรงตามความต้องการต่างๆของนักสูบมากขึ้น จึงลดบางฟังก์ชั่นที่ไม่จำเป็นลง ทำให้มีราคาถูก เพียง 590 บาท โดยปรับขนาดให้เล็กลงยิ่งขึ้น น้ำหนักเบา และมีฟังก์ชั่นหลักที่จำเป็นต่อผู้ใช้งานคงเหลือไว้ ให้คุ้มค่า จ่ายในราคาสบายกระเป๋า โดยแต่ละคุณสมบัติ มีดังนี้
– LED ไฟแจ้งเตือน และมีไฟท้ายเครื่อง
– Ultra Lightweight ออกแบบให้น้ำหนักเบา เพียง 17.8 กรัม และเล็กกะทัดรัด
– Long Lasting Battery Life คนที่กังวลเรื่องแบตเตอรี่ ในรุ่นนี้บรรจุ 330 mAh ทำให้สามารถใช้งานได้ตลอดทั้งวันแบบไม่มีสะดุด
– K4 Chip ได้สัมผัสประสบการณ์การสูบใหม่ๆ มีความเสถียร สมูทยิ่งขึ้น
– Compatibility สะดวกสบาย สามารถใช้คู่กับหัวพอต KS POD และ KS POD MAX ทำให้คุณสามารถเปลี่ยนฟิลสูบที่โดนใจคุณได้ง่ายยิ่งขึ้น
– USB Type-C ในการชาร์จแบต และชาร์จได้ไว
– Double Air Inlet ระบบการนำลมเข้าที่ เงียบ มีความนิ่งมากขึ้น
– หมดปัญหาการรั่วซึม ดีขึ้น เสถียรขึ้น
ลองใช้งาน KS Kurve Lite 2 แล้วเป็นอย่างไร
KS Kurve Lite 2 รีวิว จากผู้ที่ใช้งานจริง ผู้ใช้งานจะชอบตั้งแต่ที่รุ่นนี้มีสายชาร์จมาให้ แม้จะราคาถูก ส่วนในเรื่องดีไซน์ แม้เป็นพลาสติก แต่เป็นพลาสติกที่แข็งแรง แถมยังมีตัวกันลื่นอีกด้วย มี Logo ที่สวยงาม และอีกอย่างที่ผู้ใช้งานชอบนั่นก็คือ น้ำหนักเพียง 17.8 กรัม และใช้ชิป 4K เรียกได้ว่าการจ่ายไฟ การยิงลม เทียบเท่า KS Kurve และจุดเด่นอีกจุดก็คือไฟทั้งที่ตัวเครื่อง และท้ายเครื่องด้วย ตัวผู้รีวิวได้ลองใช้กับหัวพอต KS Pod Max เผื่อความอรรถรส และฉ่ำสุดๆที่ได้จากหัวพอตรุ่นนี้ เมื่อนำหัวพอตเสียบเข้าไปในตัวเครื่อง จะมีไฟที่ตัวเครื่อง และท้ายเครื่องติดขึ้นมา สวยและเท่มาก เมื่อคุณสูบ ไฟที่ตัวเครื่องและท้ายเครื่องจะแสดงตอนเวลาตอนที่คุณดึงลงเข้าไป เมื่อเปรียบเทียบกับ KS Kurve แล้ว แทบจะเหมือนกันเป๊ะ เพียงแต่ Kurve Lite 2 ฟังก์ชั่นบางอย่างที่ถูกตัดออกไป คือ แบตเตอรี่ รุ่นนี้จะบรรจุน้อยกว่า วัสดุตัวเครื่อง และระบบสั่น ซึ่งถ้าใครไม่ได้ซีเรียสฟังก์ชั่นเหล่านี้ ขอแนะนำให้ใช้รุ่นนี้เลย เพราะสะดวก คุ้มค่า คุ้มราคา แบบเกินคาด
ks kurve lite 2 รีวิว เหมาะกับใครบ้าง
1. ผู้ที่ต้องการใช้ฟังก์ชั่นที่จำเป็นเท่านั้น
ในรุ่น ks kurve เป็นรุ่นที่มีฟังก์ชั่นแบบฟูลออฟชั่น จนบางทีผู้สูบก็รู้สึกใช้งานได้ไม่เต็มฟังก์ชั่นที่มี ในรุ่น lite จะมีการตัดฟังก์ชั่นบางอย่างที่ไม่จำเป็นออกไป คือเปลี่ยนวัสดุที่ใช้ผลิตตัวเครื่อง แบตเตอรี่ความจุน้อยลงเล็กน้อย และระบบสั่นเตือน ซึ่งเมื่อตัดคุณสมบัติและฟังก์ชั่นเหล่านี้ออก ผู้ใช้งานจะได้ใช้งานได้ครบทุกฟังก์ชั่นแน่นอน แต่ไม่กระทบต่อฟิลการสูบ และคุณภาพของพอตไฟฟ้าเลย เพราะที่เหลือยังคงมีประสิทธิภาพเหมือนอย่างรุ่นเดิม
2. ผู้ที่มีงบจำกัด
สำหรับผู้ที่งบน้อย งบจำกัด อยากได้บุหรี่ไฟฟ้าราคาเอื้อมถึงได้ ย่อมเยา ก็ต้องรุ่นนี้เลย เพราะราคาเพียง 590 บาทเท่านั้น แต่ได้ของที่มีคุณภาพครบจัดเต็ม
3. ผู้ที่เป็นนักสูบมือใหม่
สำหรับผู้ที่ต้องการเลิอกบุหรี่ หรืออยากเข้าวงการพอตไฟฟ้า ห้ามพลาดรุ่นนี้ เพราะถือเป็นรุ่นที่เริ่มต้นได้ดี ไม่แพง คุณภาพโอเค เหมาะมากกับมือใหม่